เทียบ 5 แอปส่งอาหาร ขายผ่านออนไลน์ ค่ายไหนเหมาะกับร้านเรา

วันนี้ MHA จะมาเปรียบเทียบแอปสั่งอาหารออนไลน์ 5 แอปดัง  Grab Food, foodpanda, Robinhood, LINE MAN และ Gojek ในประเด็นต่างๆ ที่เจ้าของร้านอาหารควรรู้ก่อนเลือกใช้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้แอปใดดี หรือต้องมีทั้งหมด ในยุคที่การสั่งอาหารออนไลน์เป็นเรื่องที่ทุกร้านจำเป็นต้องมี

เริ่มจากข้อมูลสำคัญของแต่ละแอปที่ร้านค้าจำเป็นต้องรู้กันซะก่อน

Grab Food : เบอร์ 1 ในวงการเดลิเวอรี่ไทย

  • มีผู้ใช้งานประมาณ 2 ล้านคน คนขับส่งของประมาณ 100,000 คน
  • ไม่มีค่าแรกเข้าและค่าสมัคร
  • คิดค่าคอมมิชชัน 35% (ก่อน VAT 7%) ของรายการอาหารที่ถูกสั่งผ่าน Grab ในระยะเวลาสัญญา 12 เดือน (นับจากวันที่ลงชื่อเอกสารสัญญา)
  • ร้านค้าต้องเตรียมมือถือหรือแท็บเลตระบบ Android เท่านั้น (ไม่รองรับเครื่อง Huawei ที่ลงแอป Google Play ไม่ได้)
  • ใช้อีเมลที่เป็น @gmail เพื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนเข้าแอป GrabMerchant เพื่อรับคำสั่งซื้อ
  • รูปภาพอาหารต้องไม่ใช้ซ้ำกับเว็บไซต์อาหารอื่น
  • ร้านค้าจะได้รับยอดขายสุทธิหลังหักค่าบริการต่างๆ ในวันถัดไป
  • ร้านค้าจะต้องมีบัญชีธนาคารกสิกรไทย (Kbank) หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsi) เท่านั้น
  • สามารถศึกษาขั้นตอนและวิธีการใช้งานได้ที่นี่ คลิก

Foodpanda : มาแรง ขยายตัวเร็วมาก มุ่งสู่ร้านค้าท้องถิ่น

  • มีผู้ใช้งานประมาณ 7 ล้านคน คนขับส่งของประมาณ 100,000 คน
  • มีค่าแรกเข้า 399 บาท และค่าบริการรายเดือน 99 บาท ในการสมัคร
  • มีนโยบายการันตีราคา ร้านค้าจึงไม่สามารถเพิ่มราคาจากราคาปกติที่ลูกค้ารับประทานที่ร้านได้
  • คิดค่าคอมมิชชัน 32% จากมูลค่าของออเดอร์ทั้งหมดที่สั่งผ่าน Foodpanda และจะถูกหัก VAT 7% (สำหรับออเดอร์ที่ชำระบัตรเครคิต จะละเว้นค่าธรรมเนียม 3%)
  • ร้านค้าจะได้รับแท็บเล็ต โดยร้านค้าสามารถเปิด/ปิดร้านอาหาร ตรวจสอบยอดขายได้ด้วยตนเองผ่านทางแท็บเล็ต และยังสามารถส่งข้อความติดต่อกับทาง foodpanda ได้โดยตรงเมื่อท่านพบปัญหาหรือต้องการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า
  • ได้รับ Gift Voucher ส่วนลด 50 บาท จำนวน 100 ใบ สำหรับนำไปแจกให้กับลูกค้าของทางร้านเพื่อเป็นการโปรโมทร้านค้า
  • ใช้ได้ทุกธนาคาร แนะนำ ธ.ไทยพาณิชย์ เพราะถ้าเป็นธนาคารอื่นจะได้รับเงิน 1-2 วันหลังจากวันที่จ่ายเงิน
  • สามารถศึกษาขั้นตอนและวิธีการใช้งานได้ที่นี่ คลิก

Robinhood : แอปไทย เพื่อคนไทย

  • ไม่เสียค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม
  • ใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android
  • จะเก็บเฉพาะค่า LS แค่ 8% เท่านั้น (LS คือส่วนลดค่าส่งอาหารจากร้านค้าที่ Robinhood จะส่งต่อให้ลูกค้า 100% และนำไปเป็นส่วนลดโดยตรงให้กับลูกค้าในออเดอร์นั้นๆ)
  • ต้องมีบัญชี SCB ออมทรัพย์หรือเงินสะพัด และมี SCB Easy App
  • ร้านค้าได้รับเงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากมีการชำระค่าอาหาร
  • เจ้าของร้านเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น
  • สามารถศึกษาขั้นตอนและวิธีการใช้งานได้ที่นี่ คลิก

LINE MAN : พันธมิตร “วงใน”
ได้เปรียบเรื่องรีวิว และแยกหมวดหมู่อาหารชัดเจน

  • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครและการให้บริการ
  • ร้านค้าไม่ถูกหักเปอร์เซ็นใดๆ จาก LINE MAN โดยคิดค่าส่งตามระยะทางในอัตราปกติ ค่าส่งเริ่มต้นที่ 62 บาท
  • แต่ถ้าเข้าร่วม LINE MAN GP ค่าส่งเริ่มต้น 0 บาทร้านจะได้รับค่าส่งอาหารที่ถูกกว่า และได้รับการโปรโมทพิเศษ เพื่อช่วยให้ร้านได้รับออเดอร์ (Order) และดันยอดขายมากขึ้นกว่าเดิม
  • LINE MAN GP จะหัก 30% (ยังไม่รวม VAT)
  • ถ้าลูกค้าจ่ายเงินสด ร้านรับเงินสดจากไรเดอร์ แต่หักค่า GP โดยนำไปรวมกับยอดที่ลูกค้าจ่าย e-payment ออกใบแจ้งหนี้มาเก็บอีกที
  • ยอด E-payment ต้องมียอดเงินสะสมหลังหักGP ถึง 500 บาท LINE MAN ถึงจะโอนเงินเข้า บช.ให้ในวันถัดไป ถ้ายอดไม่ถึง 500 บาท ต้องสะสมยอดต่อไปจนครบเดือน
  • จะมีใบแจ้งหนี้ทาง e-mail ภายในวันที่ 1-2 ของเดือนถัดไป จ่ายชำระภายในวันที่ 20
  • ใช้บัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • ศึกษารายละเอียดได้ที่นี่ คลิก

Gojek : รีแบรนด์มาจาก Get เดิม

  • การบริการของ gojek จะมีค่าคอมมิชชันที่ 30% (ไม่รวม VAT 7%)
  • ร้านค้าจะต้องมีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในระบบ Android เพื่อใช้สำหรับแอปพลิเคชัน GoBiz ในการจัดการร้านค้า
  • ทางร้านค้าจะได้รับรายงานยอดขายและรายงานยอดรับในแต่ละวันทางอีเมล ซึ่งประกอบไปด้วยรายงานจำนวนยอดขายรายวัน, รายรับที่ร้านค้าจะได้รับหลังหักค่าธรรมเนียม, รายละเอียดค่าบริการ
  • ร้านค้าสามารถดาวน์โหลดรายงานการขาย โดยการกดที่ปุ่ม “ดาวน์โหลดรายงาน” รูปแบบรายงานจะอยู่ในรูปแบบไฟล์ Excel
  • ใช้บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์
  • สามารถศึกษาขั้นตอนและวิธีใช้งานได้ที่นี่ คลิก

แล้วจะสมัครแอปไหนดี?

จากการสำรวจพบว่า แต่ละแอปมีกลุ่มลูกค้าที่ต่างกัน รวมถึงมีจุดเด่น-จุดอ่อนที่ต่างกันด้วย ดูจากข้อมูลเราจะพบว่า Foodpanda ครอบคลุมต่างจังหวัดมากที่สุด รองลงมาคือ Grab food ในขณะที่ Robinhood ยังคงน่าสนใจเพราะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการจากร้านค้า  และยังเป็นแอปที่จ่ายเงินให้ร้านค้าไวที่สุด

ถ้าเป็นไปได้ MHA แนะนำว่า ควรมีไว้ทั้ง 5 แอป เพราะยอดสั่งของแต่ละแอปมีพอๆกัน โดยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นส่งฟรีหรือลดราคาค่าจัดส่งในช่วงนั้น

ถ้าร้านอยู่ต่างจังหวัดขอแนะนำให้ใช้ Food Panda เป็นหลักในขณะที่ LINE MAN และ Grab Food จะเหมาะกับพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมากกว่า แต่ถ้าร้านเปิดใหม่ ยังไม่มีกำไรมากนัก ให้ลองสมัคร Robinhood หรือ Line Man ดูก่อนเพราะยังไม่เก็บค่า GP หรือค่าธรรมเนียม แต่ถ้าอยากได้ลูกค้าที่ไกลขึ้น ให้ลองสมัคร LINE MAN GP จะช่วยได้มากเช่นกัน

คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม

Leave A Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *